Facebook.com ยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมออนไลน์สุดฮอต ภายใต้การนำของ “มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก” ผู้ก่อตั้ง Facebook.com ที่มีอายุเพียง 26 ปี ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ทั้ง ๆ ที่เรียนไม่จบ แต่มีจิตนาการและความคิดที่สามารถสร้าง Facebook.com เป็นที่โด่งดังทั่วโลก และมีคนเข้าเว็บไซต์มากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีความร่ำรวย โดยมีเงินประมาณ 76,000 ล้านบาท ภายหลังก่อตั้ง Facebook.com มาประมาณ 6 ปี และได้รับการยกย่องจากนิตยสาร time ให้ มาร์ค เป็นบุคคลแห่งปี เมื่อปี 2011
ปัจจุบัน Facebook.com มีอายุประมาณ 8 ปีแล้ว มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก มีแผนการยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงอนาคต โดยยื่นข้อมูลทำ IPO ต่อ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยมอบหมายให้วานิชธนกิจใหญ่หลายแห่งเป็นผู้ดำเนินการ และตั้งเป้าระดมทุนเป็นวงเงิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรืออาจมากถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อนำไปใช้ขยาย server เตรียมสนับสนุนการบริการสมาชิกใหม่ ๆ ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งนับวันจะเพิ่มจำนวนขึ้นรวดเร็วเกินความคาดหมาย
สิ่งที่นักลงทุนทั้งโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิดก็คือ การขายหุ้น IPO ของ Facebook IPO หรือ Initial Public Offering ซึ่งหมายถึง การเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก ที่ Facebook กำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปใช้ในการ ประกอบธุรกิจหรือขยายขอบเขตธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดโดยประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และหาก Facebook ทำได้สำเร็จ ก็จะทำลายสถิติเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมไอที แซงหน้าการขายหุ้นของ “กูเกิล” เมื่อปี 2004 ที่ระดมทุนให้บริษัทได้ 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่าตามราคาตลาด 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
Facebook ได้ยื่นแสดงรายการต่อ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกาว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์สุดฮอตถึง 845 ล้านคน และมีผู้ใช้งานประจำวัน 463 ล้านคน ขณะที่รายได้ต่อปีของเฟซบุ๊กอยู่ที่ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นรายได้จากการดำเนินงาน 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และรายได้สุทธิ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ความคาดหวังที่สูงของผู้ถือหุ้นอาจสร้างแรงกดดันให้กับ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook เพราะทิศทางในการบริหารงานในอนาคต และวิสัยทัศน์อาจต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างสำคัญ เนื่องจากช่องทางการสร้างรายได้ให้ “มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก” มีหลายรูปแบบ เช่น เกมต่าง ๆ ส่วนเฟซบุ๊กก็แค่คิดส่วนแบ่งจากรายได้ของเกมไปเรื่อย ๆ เฉพาะแค่เกมฮิตเกมเดียวอย่าง City Ville เกมสร้างเมือง มีผู้เล่นอยู่ทั่วโลกถึง 55 ล้านคน รวมทั้งการกด like ในบางรายการ เพียงแค่นี้ก็ทำรายได้ให้ Fackbook ได้อย่างมากมาย